การขูดหินปูน
การขูดหินปูน (Dental Scaling) เป็นการช่วยรักษาสุขภาพของช่องปาก ให้ปลอดภัยจากโรคเหงือกอักเสบ, เหงือกบวม, ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดี, ช่วยในการลดกลิ่นปาก และคราบเหลืองที่ฟัน
หินปูนคืออะไร
หินปูนเกิดมาจากเชื้อแบคทีเรียที่รวมตัวกันกับโปรตีนและเศษอาหารจนทำให้กลายเป็นเชื่อจุลินทรีย์แบบแผ่นฟิล์มเกาะฟันและเหงือก สาเหตุเกิดมาจากการแปรงฟันไม่ทั่วถึง หรือแปรงฟันออกไม่หมด รวมถึงการดื่มชา และกาแฟ ในปริมาณมาก ๆ อีกด้วย จึงส่งผลทำให้เกิดมีคราบหินปูนไปเกาะที่ฟัน และยังส่งผลทำให้เกิดโรคต่าง ๆ ตามมาอีกด้วย อย่างเช่น โรคเหงือกอักเสบ (โรคปริทันต์) เป็นต้น
ขั้นตอนการขูดหินปูน
การขูดหินปูนใช้เวลาไม่นาน อาจจะมีอาการเจ็บ รวมถึงอาจมีอาการเสียวฟันบ้างเล็กน้อย แต่ไม่นานก็จะหาย และขั้นตอนในการขูดหินปูนนั้นก็มีวิธีดังต่อไปนี้
- อันดับแรกเราต้องไปพบกับทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจสุขภาพของช่องปากว่ามีปัญหาอย่างอื่นที่นอกเหนือจากหินปูนแล้วมีฟันผุ หรือว่าเหงือกอักเสบหรือไม่
- เมื่อทันตแพทย์ตรวจพบว่ามีคราบหินปูน ก็ทำการขูดทันที โดยจะใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ขูดหินปูนและกำจัดคราบแบคทีเรียในบริเวณใกล้เคียงออก ในระหว่างนี้คุณอาจจะมีอาการเสียวฟันบ้าง แต่อย่าตกใจ เพราะเป็นอาการปกติและจะสามารถหายเองได้
- หลังจากขูดหินปูนออกหมดแล้ว ทันตแพทย์ก็จะทำการใช้แปรงสีฟันไฟฟ้าควบคู่ไปกับใช้ ยาสีฟันที่ใช้สำหรับขัดฟันโดยเฉพาะทำความสะอาดและกำจัดคราบหินปูนที่ตกค้างออกให้หมด
- เพื่อเป็นการตรวจสอบว่ายังมีหินปูนหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่ ทันตแพทย์ก็จะทำการใช้ไหมขัดฟันอีกครั้งเพื่อเป็นการกำจัดหินปูนออกตามบริเวณซอกฟันออกให้หมด ซึ่งขั้นตอนนี้ก็อาจจะมีเลือดออก ตามไรฟันบ้างเล็กน้อย
- หลังจากใช้ไหมขัดฟันแล้วขั้นตอนต่อไป ทันตแพทย์จะให้เราบ้วนปาก เพื่อเป็นการล้างคราบหินปูนเล็ก ๆ ที่อาจจะมีหลงเหลืออยู่
- ในขั้นตอนสุดท้ายก็คือการเคลือบฟลูออไรด์ เพื่อเป็นการป้องกันการก่อให้เกิดฟันผุ โดยการนำเอาสาร เคลือบฟันเทใส่พิมพ์ที่มีลักษณะคล้ายฟัน หลังจากนั้นก็จะให้เรากัดไว้ 1 – 2 นาที ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
การปฏิบัติตัวหลังการขูดหินปูน
-
- ให้งดทานอาหารที่มีรสจัดและชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, แอลกอฮอล์ เพราะอาจจะทำให้ฟันเหลืองเร็วขึ้น
- คอยสังเกตอาการหลังขูดหินปูนว่าเกิดการอักเสบ หรือมีหนองที่บริเวณเหงือกหรือไม่ ถ้าหากมี ให้รีบไปพบทันตแพทย์ทันที เพราะอาจจะเกิดการติดเชื้อได้
- ถ้าหากมีอาการปวดฟัน, ปวดเหงือก หรือว่าเหงือกบวม ให้ทานยาบรรเทาอาการปวดหรือว่ายาแก้อักเสบ ที่ทางทันตแพทย์ให้มาอย่างเคร่งครัด
- ทุก ๆ 6 เดือน ควรกลับไปพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพของช่องปากให้มีสุขภาพดี ฟันจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ